เมนู

บทว่า คหปติจีวรํ ได้แก่ จีวรอันคหบดีทั้งหลายถวาย.
สองบทว่า ธมฺมิยา กถาย คือ ถ้อยคำอันประกอบพร้อมด้วย
อานิสงส์แห่งการถวายผ้า
บทว่า อิตริตเรนนาปิ คือ มีค่าน้อยก็ตาม มีค่ามากก็ตาม, ความว่า
อย่างใดอย่างหนึ่ง. ผ้าห่มที่ทำด้วยฝ้ายชนิดที่มีขน ชื่อผ้าปาวาร.
ในคำว่า อนุชานมิ ภิกฺขเว โกชวํ นี้ มีความว่า ผ้าโกเชาว์
คือ ผ้าลาด ตามปกติเท่านี้ จึงควร, ผ้าโกเชาว์ผืนใหญ่ ไม่ควร. ผ้าโกเชาว์
นั้น ทำด้วยขนสัตว์คล้ายผ้าปาวาร.

ว่าด้วยทรงอนุญาตจีวร 6 ชนิด


พระเจ้ากาสีนั้น คือพระราชาแห่งชนชาวกาสี, ท้าวเธอเป็นน้องร่วม
พระบิดาเดียวกับพระเจ้าปเสนทิ.
วินิจฉัยในบทว่า อฑฺฒกาสิยํ นี้ พึงทราบดังนี้:-
หนึ่งพันเรียกว่ากาสีหนึ่ง ผ้ากัมพลมีราคาพันหนึ่ง ชื่อมีค่ากาสีหนึ่ง,
แต่ผ้ากัมพลผืนนี้ มีราคา 50, เพราะฉะนั้น ท่านจึงกล่าวว่า มีค่ากึ่งกาสี,
ด้วยเหตุนี้แล พระอุบาลีเถระจึงกล่าวว่า ควรแก่ราคากึ่งกาสี.
บทว่า อุจฺจาวจานิ คือ ดีและไม่ดี. ผ้าที่ทำเจือกันด้วยด้ายห้าชนิด
มีด้ายเปลือกไม้เป็นต้น ชื่อผ้าภังคะ บางอาจารย์กล่าวว่า ผ้าที่ทำด้วยปอเท่านั้น
ดังนี้บ้าง.
ข้อว่า เอกํเยว ภควตา จีวรํ อนุญฺญาตํ น เทฺว มีความว่า
ได้ยินว่า ภิกษุเหล่านั้น กำหนดเนื้อความแห่งบทอันหนึ่งว่า ด้วยจีวรตามมี
ตามได้ อย่างนี้ว่า ด้วยจีวรเป็นของคหบดีหรือด้วยผ้าบังสุกุล.